สิ่งที่ควรรู้ ก่อนเรียนดำน้ำ

สิ่งที่ควรรู้ ก่อนเรียนดำน้ำ ฟรีไดฟ์และสคูบ้า

know-befor-diving
สิ่งที่ควรรู้ ก่อนเรียนดำน้ำ

ในบทความนี้จะสรุปสิ่งที่ผู้เริ่มคิดจะเรียนดำน้ำ หาที่เรียนดำน้ำ ควรรู้ว่าอะไรบ้างที่เป็นปัจจัยในการเลือกเรียนดำน้ำแต่ละประเภท โดยใช้ภาษาที่ง่ายกับการเข้าใจ ที่ไม่เป็นวิชาการเกินไป เพื่อเป็นข้อมูลในการเปรียบเทียบตัดสินใจเลือกที่เรียนดำน้ำ ให้เหมาะกับตนเองในทุก ๆ ด้าน

การดำน้ำมีกี่ประเภท

การน้ำดำน้ำจะแบ่งเป็นสองประเภท คือ

  1. การดำน้ำตัวเปล่าฟรีไดฟ์ (Freedive)
  2. การดำน้ำลึก สคูบ้า (SCUBA)

ความแตกต่างระหว่าง ฟรีไดฟ์กับสคูบ้า

  • Freedive ฟรีไดฟ์ เป็นการดำน้ำแบบใช้เทคนิคการกลั้นหายใจดำลงไปในน้ำ ใช้เพียงหนึ่งอึดลมหายใจในการดำลงไปในน้ำแต่ละครั้ง ไม่สามารถหายใจในน้ำได้ 
  • SCUBA สคูบ้า เป็นการดำน้ำแบบใช้อุปกรณ์ที่ช่วยให้เราลงไปหายใจในน้ำได้ ช่วยพยุงตัวให้ลอยตัวเป็นกลางในน้ำได้ ไม่จมน้ำ

การดำน้ำ จำเป็นต้องเรียนไหม

การดำน้ำทุกชนิด ทุกประเภท (แต่อาจยกเว้นการดำน้ำแบบสนอร์เกิลลิ่ง) จำเป็นต้องเรียนทั้งสิ้น เพื่อให้รู้หลักการ และวิธีการใช้อุปกรณ์ให้ถูกต้อง เช่น

  • Freediving การดำน้ำตัวเปล่าแบบฟรีไดฟ์ จะต้องเรียนรู้เกี่ยวกับการใช้ และบำรุงรักษาอุปกรณ์ให้ถูกต้อง วิธีการเตรียมอากาศ การกลั้นหายใจ การมุดน้ำ (Duck Dive) และอื่น ๆ อีกมากมาย สิ่งเหล่านี้ถ้าไม่ได้รับการเรียนรู้ที่ถูกต้องอาจทำให้เกิดอันตรายได้ เช่น การหมดสติในน้ำ (Shallow Water Blackout)
  • Scubadiving การดำน้ำลึกแบบสคูบ้า จำเป็นต้องเรียนอย่างยิ่ง เพราะต้องใช้อุปกรณ์เยอะ และมีความซับซ้อนมากกว่าการดำน้ำแบบฟรีไดฟ์ ต้องเรียนรู้หลักฟิสิกส์เกี่ยวกับแรงดันของน้ำ แสง สี เสียง ที่มีผลต่อร่างกายเราเวลาลงไปอยู่ในน้ำ ถ้าไม่ได้รับการเรียนรู้อย่างถูกต้อง จะทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิตเป็นอย่างมาก

การดำน้ำ ถ้าไม่มีใบรับลอง สามารถไปดำน้ำได้ไหม

การไปดำน้ำยังสถานที่ต่าง ๆ โดยยังไม่มีใบรับลองการจบหลักสูตร สามารถไปดำน้ำได้ แต่..

  • การดำน้ำแบบฟรีไดฟ์ หากยังไม่มีหลักฐานการรับลองการจบหลักสูตร ก็สามารถไปดำน้ำได้แทบทุกที่ แต่ยกเว้นในเขตอุทยาน หรือในบางที่ ที่มีเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมคอยดูแลนักดำน้ำ ที่ไม่ได้รับการอบรม หรือเรียนดำน้ำมา ห้ามลงดำน้ำเพื่อไม่ให้เกิดการทำลายปะการัง และสิ่งแวดล้อมใต้ทะเลให้เกิดการเสียหายได้ คุณจะดำน้ำในเขตนั้นได้เฉพาะแบบสนอร์เกิลลิ่งเท่านั้น
  • การดำน้ำแบบสคูบ้า หากยังไม่มีใบรับลองผ่านการเรียนดำน้ำลึก แต่ถ้าคุณมีอุปกรณ์ดำน้ำแบบสคูบ้าเป็นของตัวเอง มีเรือเป็นของตัวเอง ก็สามารถลงดำน้ำได้ โดยไม่มีใครห้ามได้ แต่ถ้าคุณไม่มีสิ่งเหล่านั้นเลย การดำน้ำแบบสคูบ้านั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย เพราะการเช่าอุปกรณ์ การออกเรีอ หรือซื้อทริปดำน้ำแบบสคูบ้า ร้านดำน้ำ ผู้จัดทริป หรือผู้ให้เช่าอุปกรณ์ ที่ได้มาตรฐาน ส่วนใหญ่จะต้องขอดูบัตรดำน้ำก่อน เพราะถ้าผู้ประกอบการ ให้บริการกับลูกค้าที่ไม่มีใบรับลอง หากเกิดอะไรขึ้น ความผิดอาจร้ายแรงถึงขั้นเพิกถอนใบอุนญาติก็เป็นได้

ว่ายน้ำไม่เป็น เรียนดำน้ำได้ไหม

“ว่ายน้ำไม่เป็น เรียนดำน้ำได้ไหม” เป็นคำถามที่พบบ่อยมาก และเป็นเหตุผลที่ทำให้บางคนไม่อยากเรียนดำน้ำ เพราะกลัวจมน้ำ  คิดว่าการว่ายน้ำไม่เป็นก็ ไม่สามารถเรียนดำน้ำได้ ต้องว่ายน้ำเป็นก่อน หรือต้องไปเรียนว่ายน้ำก่อน ถึงจะเรียนดำน้ำได้

  • ว่ายน้ำไม่เป็นเลย ก็สามารถเรียนดำน้ำฟรีไดฟ์ได้ เพราะสิ่งแรกที่เราจะสอนเลย คือ สอนให้ลอยตัวได้ ว่ายน้ำเป็น เล่นน้ำได้ เอาตัวรอดจากการจมน้ำได้ ทำให้เลิกกลัวน้ำ เพราะฉะนั้นนักเรียนก็จะว่ายน้ำเป็นไปโดยปริยาย 
  • ว่ายน้ำไม่เป็นเลย ก็สามารถเรียนดำน้ำสคูบ้าได้ เพราะสคูบ้าแทบจะไม่ได้ใช้ทักษะการว่ายน้ำเท่าใดนัก ในหลักสูตรจะมีการฝึกสอน หรือให้นักเรียนทำทักษะการดำน้ำแบบสกินไดฟ์อยู่ด้วย ซึงนั่นหมายความว่า ผู้เรียนจะต้องว่ายน้ำเป็น หรือพอเป็นบ้างแล้ว จะไม่มีการสอนว่ายน้ำแบบเฉพาะเจาะจง เพราะหลักสูตรการดำน้ำส่วนใหญ่ คิดค้นออกแบบโดยต่างชาติ ส่วนใหญ่คนต่างชาติในวัยเด็ก พ่อแม่จะมีกิจกรรมให้ลูก ๆ ทำและส่วนใหญ่ก็จะได้รับการฝึกว่ายน้ำ ดำน้ำมาตั้งแต่เด็ก ส่วนมากชาวต่างชาติจะมีพื้นฐานสกินไดฟ์มาบ้างแล้ว แต่สำหรับคนไทยส่วนใหญ่จะยังไม่ได้รับการฝึกฝน หรือทำในสิ่งที่กล่าวมาข้างต้น จึงมีความจำเป็นต้องเรียนดำน้ำฟรีไดฟ์มาก่อนจะดีที่สุด เพราะทักษะที่ต้องเรียน และทำบางอย่าง ถ้าลอยตัว หรือว่ายน้ำไม่เป็น ก็อาจเกิดอันตรายจากการจมน้ำได้ 

สรุป : ถ้าว่ายน้ำไม่เป็นเลย หรือยังช่วยตัวเองไม่ได้ ไม่สามารถเอาตัวรอดจากการจมน้ำได้ ควรเรียนดำน้ำฟรีไดฟ์กับเราก่อน เพราะเราจะเน้นสอนเทคนิคการลอยตัว และเทคนิคการเอาตัวรอดจากการจมน้ำ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยเป็นอันดับแรก 

ว่ายน้ำกับดำน้ำ ต่างกันอย่างไร

การว่ายน้ำต่างกับดำน้ำ คือ

  • การว่ายน้ำ ส่วนใหญ่จะเป็นการเคลื่อนที่ไปข้างหน้าเลื่อย ๆ และกลั้นหายใจไม่ต้องนาน สามารถหายใจได้ ตามจังหวะการว่ายน้ำ จุดประสงค์ คือ การเคลื่อนที่ไปให้ถึงจุดหมาย
  • การดำน้ำฟรีไดฟ์ ต่่างจากการว่ายน้ำ เพราะจะใช้การว่ายน้ำเพียงเล็กน้อยบนผิวน้ำ เพื่อกลับขึ้นเรือ หรือไปเกาะทุ่นชูชีพ จะใช้การลอยตัวนิ่ง ๆ อยู่บนผิวน้ำเพื่อเตรียมอากาศเป็นหลัก และจะใช้การว่ายน้ำอีกทีเมื่อดำลงไปในน้ำแล้ว ดังนั้นการดำน้ำฟรีไดฟ์จะเน้นการลอยตัวบนผิวน้ำเป็นหลัก
  • การดำน้ำลึกสคูบ้า ส่วนใหญ่ใช้เวลาอยู่ในน้ำ เพราะสามารถหายใจในน้ำได้ จะใช้การว่ายน้ำเมื่ออยู่บนน้ำเพื่อเคลื่อนที่ไปยังจุดหมายที่ต้องการ หรือว่ายน้ำบนผิวน้ำเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพื่อกลับเรือ 

ว่ายน้ำเป็น จำเป็นต้องเรียนดำน้ำไหม

คนที่ว่ายน้ำเป็น บางทีก็ทำทักษะการดำน้ำมีดี หรือไม่ถูกต้องผิดวิธีก็เยอะ แต่ก็จะได้เปรีบยกว่าคนที่ว่ายน้ำไม่เป็นเลย แล้วมาเรียนดำน้ำ เพราะจะมีความคุ้นเคยกับการอยู่ในน้ำแล้ว ทำให้ลดอาการตกใจ หรือสำลักน้ำได้บ้าง  แต่ถึงอย่างไรก็ควรมาเรียนดำน้ำเพื่อให้รู้วิธีที่ถูกต้อง เช่น การกลั้นหายใจดำน้ำยังไงไม่ให้เกิดการหมดสติในน้ำ

อุปกรณ์ดำน้ำ จำเป็นต้องซื้อ หรือมีเป็นของตัวเองไหม

อุปกรณ์ดำน้ำทั้ง ฟรีไดฟ์และสคูบ้า ถ้าจะเอาที่มีคุณภาพดี ส่วนใหญ่มีราคาแพง เพราะฉะนั้น การจะซื้ออะไรซักชื้นก็ควรจะต้องคิดให้ดี ต้องว่างแผนว่าเดือนนึง ปีนึงเราจะดำน้ำกี่ครั้ง และส่วนใหญ่เราจะดำน้ำแบบไหน ฟรีไดฟ์หรือสคูบ้า แต่สิ่งที่ควรซื้อตั่งแต่แรกเลย คือ หน้ากากดำน้ำ (Mask), ตีนกบ (Fins) อุปกรณ์สองชิ้นนี้ ควรซื้อเป็นของตนเอง เพราะถ้าเช่า ขนาดหรือรูปล่าง อาจไม่พอดีกับใบหน้า หรือเท้าของเรา จะทำให้การดำน้ำเป็นอุปสรรค และน่ารำคาญ เช่น น้ำเข้าหน้ากากบ่อย ตีนกบ (Fins) กัดเท้าจนเป็นแผลแสบ ดำน้ำต่อไม่ได้ 

ส่วนอุปกรณ์ที่ไม่ต้องซื้อ หรือซื้อเป็นของตัวเองก็ดี ส่วนใหญ่จะเป็นอุปกรณ์ดำน้ำสคูบ้า 

  • Mask and Fins หน้ากากดำน้ำและตีนกบ สองอย่างนี้ควรซื้อเป็นของตัวเอง ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาแล้วข้างต้น
  • Tank ถังอากาศดำน้ำ ส่วนใหญ่ไม่มีใครซื้อเป็นของตัวเอง เพราะต้องดูแลรักษา การขนย้ายลำบาก ก่อนใช้ต้องเอาไปอัดอากาศ ส่วนใหญ่เรือ และผู้ให้บริการดำน้ำก็มีให้เช่าอยู่แล้ว
  • Regulator อุปกรณ์จ่ายอากาศ มีราคาค้อนข้างแพง  ปีนึงถ้าคิดว่าดำน้ำไม่ถึง 50 ไดฟ์ แนะนำให้เช่าดีกว่า 
  • BCD (ฺBouyancy Compensator Device) อุปกรณ์ที่ช่วยพยุงตัวทำให้เราลอยตัวอยู่ในน้ำได้ มีราคาค้อนข้างแพง  ปีนึงถ้าคิดว่าดำน้ำไม่ถึง 50 ไดฟ์ แนะนำให้เช่าดีกว่า
  • Weight Belt ตะกั่ว และเข็มขัดตะกั่ว ช่วยปรับการลอยตัวของเราให้เป็นกลาง อุปกรณ์ชิ้นนี้ก็เหมือนถังอากาศ ไม่มีความจำเป็นต้องซื้อ ส่วนใหญ่เรือ และผู้ให้บริการดำน้ำก็มีให้บริการอยู่แล้ว และไม่ต้องเสียเงินเช่าด้วย คือ มีให้ใช้ฟรี
  • Dive Computer นาฬีกาดำน้ำ เป็นสิ่งจำเป็นที่นักดำน้ำต้องมี และก็มีราคาค่อนข้างแพงอีกเช่นกัน แต่ก็มีบางยี่ห้อที่มีฟังก์ชั้นสำหรับดำน้ำทั้งฟรีไดฟ์ สคูบ้า วิ่งออกกำลังกาย มี GPS บอกตำแหน่ง และระยะทางด้วย ก็นับว่าคุ้มที่จะซื้อเหมือนกัน

ว่ายน้ำเป็นกับดำน้ำเป็น อย่างไหนเอาตัวรอดการจมน้ำได้ดีกว่ากัน

ว่ายน้ำเป็นกับว่ายน้ำได้ มีความแตกแต่งกันอยู่พอสมควร 

  • ว่ายน้ำเป็น คือ การว่ายน้ำอย่างถูกวิธี ท่าทางถูกต้องสวยงาม จังหวะการหายใจถูกต้อง ทำให้ว่ายได้ไกล ๆ นาน ๆ โดยไม่เหนื่อย ส่วนใหญ่ต้องได้รับการเรียนรู้ที่ถูกต้อง และฝึกฝนเป็นเวลานานพอสมควร เวลาตกน้ำมีโอกาสเอาตัวรอดจากการจมน้ำได้สูง เพราะฉะนั้นคนที่ว่ายน้ำเป็น ส่วนใหญ่จะเรียกกว่านักว่ายน้ำ
  • ว่ายน้ำได้ คือ การว่ายน้ำได้แบบพอพยุงตัวไม่ให้จมน้ำได้ ต้องใช้แรงมากเพราะท่าทางไม่ถูกต้อง เคลื่อนที่ช้า โอกาสเอาตัวรอดจากการจมน้ำต่ำ ถ้าต้องลอยคออยู่บนผิวน้ำนาน ๆ อาจทำให้เหนื่อย และหมดแรงจมน้ำไปในที่สุด คนส่วนใหญ่มักจะแค่ว่ายน้ำได้

ดำน้ำเป็นกับดำน้ำได้ (ในที่นี้จะพูดถึงการดำน้ำแบบฟรีไดฟ์) มีความแตกต่างกันอยู่พอสมควรเหมือนกันว่ายน้ำ

  • คนที่ดำน้ำเป็น จะได้รับการเรียนรู้ที่ถูกต้อง มีท่าทางที่ถูกต้องสวยงาม ใช้แรงน้อย กลั้นหายใจใต้น้ำได้นาน ลอยตัวบนผิวน้ำได้นาน ๆ เอาตัวรอดจากการจมน้ำได้ดีมาก เพราะเป็นทักษะที่ต้องฝึกให้ทำได้เป็นอันดับแรก ที่สำคัญถูกสอนให้รู้ขีดจำกัดของตัวเองในการดำน้ำ จึงทำให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น 
  • คนที่ดำน้ำได้ ก็จะตรงข้ามกับคนดำน้ำเป็น ส่วนใหญ่เรียนรู้ด้วยตัวเองอย่างผิดวิธี ท่าทางไม่ถูกต้อง ใช้แรงมาก กลั้นหายใจได้ไม่นาน ลอยตัวบนผิวน้ำได้ไม่นานก็เกิดอาการเหนื่อยล้า เอาตัวรอดจากการจมน้ำไม่ค่อยได้ ไม่รู้ขีดจำกัดตัวเอง ทำให้เกิดอันตรายมาก

สรุป: ว่ายน้ำเป็นกับดำน้ำเป็น สามารถเอาตัวรอดได้พอกัน แต่ดำน้ำเป็นจะได้เปรียบตรงถูกฝึกให้ลอยตัว หรือลอยคออยู่ได้นาน ๆ ไม่ต้องว่ายน้ำตลอดเวลา 

เรียนดำน้ำด้วย เที่ยวด้วยดีไหม

หลายคนคงจะมีความคิดว่าไหน ๆ ก็ไปเรียนดำน้ำแล้ว ก็ถือโอกาสไปเที่ยวด้วย คงจะดีไม่น้อย เพราะดูมาจากรีวิวของอินฟลูเอนเซอร์ ความคิดนี้ถูกครึ่งไม่ถูกครึ่ง สิ่งที่เห็นไม่ได้เหมือนสิ่งที่เป็นจริง เพราะผู้รีวิวส่วนใหญ่จะมีผลประโยชน์ร่วมกับโรงเรียนผู้สอนดำน้ำ และต้องทำคอนเทนต์ให้ดูดี  แต่ความเป็นจริงแล้วต้องเหนื่อยกับการเดินทาง ขึ้นรถ ลงเรือ กว่าจะถึงที่เรียนก็เหนื่อย ทำให้ขาดสมาธิเเรียนไม่ค่อยรู้เรื่อง ตอนออกสอบภาคทะเลก็ต้องทำทักษะให้ผ่านแบบขอไปที ทำให้เกิดความไม่ปลอดภัย ไม่มีเวลาชื่นชมความงามใต้น้ำ เรียนเสร็จก็เหนื่อย กลับไปนอนสลบอยู่ในห้อง เพราะฉะนั้นการไปเรียนดำน้ำ ควรหาที่เรียนที่สะดวกไม่ต้องเหนื่อยกับการเดินทาง เรียนจบแล้วค่อยไปเที่ยวจะดีกว่า เพราะจะได้ประโยชน์จากเรียนอย่างเต็มที่ ทำให้มีความปลอดภัยในการดำน้ำ

จะทดลองดำน้ำก่อน หรือเรียนดำน้ำไปเลย

การทดลองดำน้ำลึก “Try Scuba” คือการทดลองเรียนรู้หลักสูตรการดำน้ำลึกเบื้องต้นแบบคราว ๆ ให้ใส่อุปกรณ์ดำน้ำลึกเกือบครบชุด แล้วลงดำน้ำ ทดลองหายใจ ทำทักษะของการดำน้ำขั้นต้น ทดลองว่ายน้ำ ราคาก็มีตั้งแต่ 1500 – 5500 บาท ใช้เวลาประมาณครึ่งถึงหนึ่งวัน เหมาะสำหรับผู้ที่อยากทดลองหายใจใต้น้ำ ลองดำน้ำดูก่อน ว่าตนเองเหมาะกับการจะเรียนต่อสคูบ้าไหม ซึ่งคนส่วนใหญ่จะไม่ค่อยเรียนกัน โดยให้เหตุผลว่าไหน ๆ ก็จะเสียเงินเสียเวลาแล้ว ก็เรียนดำน้ำขั้นต้น Open Water Diver ไปเลยดีกว่า

เรียนดำน้ำแบบไหน ที่เหมาะกับตัวเรา

การเลือกเรียนดำน้ำที่เหมาะกับตัวเรา สำหรับคนที่ยังสับสนลังเล คิดไม่ได้ว่าจะไปทางไหนดี จะเรียนฟรีไดฟ์ หรือสคูบ้าดี แต่สิ่งที่อยากให้เรียนเป็นอันดับแรก สำหรับคนที่ยังว่ายน้ำไม่เป็น หรือแค่พอเป็น ไม่ต้องคิดอะไรมากเลย คุณลงเรียนฟรีไดฟ์ไปก่อนเลย เพราะเป็นพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการเรียนต่อสคูบ้าอีกด้วย 

ทีนี้เรามาดูความแตกต่าง ข้อดี ข้อเสีย ระหว่างการดำน้ำตัวเปล่า ฟรีไดฟ์กับสคูบ้า และใครที่เหมาะกับการดำน้ำแบบใด จะได้ตัดสินใจเรียนได้ถูกต้อง

  • เรียนฟรีไดฟ์ ค่าใช่จ่ายถูกกว่า ใช้อุปกรณ์ไม่กี่ชิ้น ราคาอุปกรณ์ครบชุดไม่แพงเท่าสคูบ้า สามารถพกอุปกรณ์ไปเที่ยวออกทริปได้สะดวก น้ำหนักไม่มาก ไม่เปลืองเนื้อที่กระเป๋าเดินทาง สามาสรถไปดำน้ำได้แทบทุกที่ด้วยตัวเอง ค่าใช้จ่ายในการออกทริปไม่แพง เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบการเที่ยวทะเลเป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะสาว ๆ ใส่บิกินี่ดำน้ำถ่ายรูป ข้อเสีย คือ มีความเหนื่อยล้ามากกว่าการดำน้ำแบบสคูบ้า เพราะต้องกลั้นหายใจตลอดทุกครั้งที่ดำน้ำ ต้องออกแรงมุดลงไปในน้ำ ใช้มือและเท้าในการเคลื่อนที่ ทำให้ผู้ที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายจะเหนื่อยง่าย  ไม่เหมาะกับผู้สูงอายุ ผู้มีสุกภาพไม่แข็งแรง 
  • เรียนดำน้ำลึกสคูบ้า ไม่ต้องออกแรงเยอะเวลาดำอยู่ในน้ำ ไม่เหนื่อยเพราะหายใจในน้ำได้ตลอดเวลา มีความเบาสบายตัวอยู่ในสภาวะไร้น้ำหนัก ลอยได้เหมือนนักบินอวกาศ บินได้เหมือนนก สามารถอิ่มแอมชื่นชมสัตว์น้ำ และปะการังได้นาน ๆ สามารถเรียนได้ทุกเพศทุกวัย แต่ต้องอายุอยู่ในเกณฑ์ที่สถาบันกำหนด ต้องไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรง หรือโรคที่เป็นข้อห้ามในการเรียนดำน้ำ ข้อเสีย คือ อุปกรณ์มีราคาค่อนข้างแพงทุกชิ้น มีน้ำหนักมากเมื่อใส่ครบชุดอยู่บนบก เป็นภาระกับการเดินทาง เพราะอุปกรณ์ค่อนข้างมีน้ำหนัก เปลืองเนื้อที่กระเป๋าสัมภาระ เวลาเดินทางโดยสารเครื่องบินส่วนใหญ่น้ำหนักเกิน ต้องซื่้อน้ำหนักเพิ่ม ค่าออกทริปแพง ไม่สามารถดำน้ำด้วยตัวเองได้ ต้องมีไดฟ์หลีดคอยควบคุมการดำน้ำ

เรียนฟรีไดฟ์ เรียนดำน้ำลึกสคูบ้า แบบไหนอยากกว่ากัน

ในฐานนะที่เป็นครูทั้ง FreediveและSCUBA การเรียนดำน้ำฟรีไดฟ์ (Freedive lv.1) นั้นยากกว่าเรียนดำน้ำลึกสคูบ้า สิ่งที่ทำให้ยากกว่า คือ การเคลียร์หู การต้องกลั้นหายใจ สรีระและอวัยวะภายในร่างกาย สิ่งเหล่านี้ล้วนมีผลทำให้การเรียนฟรีไดฟ์นั้นยากกว่าสคูบ้า 

  • การเคลียร์หู เรียนฟรีไดฟ์ต้องปักหัวลงแนวดิ่งดำน้ำลงไปพร้อมทำการเคลียร์หูไปด้วย ถ้าคนที่ไม่เคยดำน้ำสกินไดฟ์ และไม่เคยฝึกเคลียร์หูมาเลย น้อยคนนักที่จะทำได้ และสอบไม่ผ่าน
  • การกลั้นหายใจ เป็นสิ่งที่สำคัญมากของการเรียนฟรีไดฟ์ ต้องใช้เวลาในการฝึกฝน ถ้ากลั้นหายใจได้ไม่นาน ก็จะทำให้สอบไม่ผ่าน
  • สรีระของอวัยวะภาพในร่างกาย การมีขนาดของท่อที่เชื่อมระหว่าโพรงหลังจมูก กับหูชั้นกลาง (ท่อยูสเตเชียน Eustachian) ที่เล็กเกินไป หรือตีบมาตั้งแต่กำเหนิด จะทำให้การเคลียร์หูแบบฟรีไดฟ์ ทำได้ลำบาก หรือทำไม่ได้เลย
  • เรียนฟรีไดฟ์ เลเวล 1 ขึ้นไป สภาพร่างกายต้องพร้อม และแข็งแรง เป็นกีฬาที่ไม่เหมาะกับผู้สูงวัย การจะสอบผ่านได้ต้องดำลงไปที่ความลึก 10 เมตร โดยการปักหัวลงแนวดิ่ง

สรุป: การเรียนฟรีไดฟ์ตั้งแต่เลเวลหนึ่งขึ้นไปนั้นมีความยากกว่าสคูบ้า แต่ถ้าเป็นการเรียนเบสิคฟรีไดฟ์ จะง่ายกว่าเยอะ ไม่ต้องกดดัน เพราะไม่ต้องออกสอบภาคทะเลถึงจะผ่าน ไม่ต้องดำลึกถึง 10 เมตร

ส่วนการเรียนดำน้ำลึกสคูบ้า สามารถเรียนได้เกือบทุกเพศทุกวัย ยกเว้นผู้ที่มีโรคประจำตัวที่ไม่เหมาะกับการดำน้ำ เช่น โรคทางเดินหายใจ หอบหืด ลมชัก โรคหัวใจ โรคโลหิตจาง เบาหวาน ความดัน ฯลฯ

เรียนดำน้ำ ควรเรียนแค่ไหน

 การเรียนดำน้ำจบหลักสูตรอะไร แค่ไหนถึงจะเพียงพอ 

  • การเรียนดำน้ำฟรีไดฟ์ ถ้าผู้เรียนเพียงแค่ต้องการน้ำทักษะฟรีไดฟ์ติดตัวไว้เพื่อความปลอดภัยเวลาเที่ยวทะเล ถ่ายรูปสวย ๆ ก็เรียนแค่หลักสูตร เบสิคฟรีไดฟ์ (Basic Freedive) ก็เพียงพอแล้ว
  • การเรียนดำน้ำลึก สคูบ้า (SCUBA) ถ้าต้องการเรียนเพื่อพักผ่อนสันทนาการ ไม่ต้องการไปประกอบอาชีพเพื่อหารายได้เป็น ผู้นำการดำน้ำ (Dive Leader) หรือ เป็นครูสอนดำน้ำ (Instructor Diver) ก็เรียนแค่จบ การดำน้ำขั้นสูง (Advanced Open Water Diver) ก็พอแล้ว

สรุป : NDLdiving เราสอนอะไรบ้าง

  1. เราสอนดำน้ำฟรีไดฟ์ ของสถาบัน SSI ในนาม FREEDIVE PLUS เรียนที่กรุงเทพ ใช้สระมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต
  2. เราสอนดำน้ำลึกสคูบ้า SCUBA ของสถาบัน PADIและSSI ในนาม NDLdiving ภาคปฏิบัติใช้สระของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต ออกสอบทะเลที่แสมสาร สัตหีบ

เราถ่ายรูปและวีดีโอสวย ๆ ให้ด้วยน๊าาา..

Scroll to Top